ในยุคที่การเป็นหนี้ง่ายกว่าการหางาน ในยุคที่บ้านซื้อง่ายกว่าแต่ก่อน หรือการเลือกจะผ่อนอะไรสักอย่าง ก็มีข้อมาเสนอเป็นร้อย ๆ มาหลอกล่อ คงยากที่จะปล่อยวางคงต้องมีอาการที่เรียกว่า “จัดเต็ม” บ้างไม่มากก็น้อย จนวันหนึ่งเรากลับมาคิดคำนวณทบทวนไปมาว่า รายรับที่มีหดหายไปไหนหมด ทำไมอยู่ดี ๆ จึงเกิดอาการ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” บางครั้งต้องกดเงินจากที่หนึ่งเพื่อไปชำระหนี้ขั้นต่ำอีก 2-3 เจ้า วนแบบนี้ไปเรื่อย ซึ่งเมื่อถึงตรงนี้อยากจะบอกว่า แววหายนะกำลังเกิด เป็นจุดกำเนิดของวังวนสนทยาปัญหานี้สินที่ไม่รู้จบ คุณจะพบว่าทางออกแทบไม่มีเลย
ปัญหาที่ว่ามานั้นก่อนอื่นต้องยอมรับกันก่อนว่า เกิดจากวินัยทางการเงินเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีหลาย ๆ คนเกิดจากการที่ต้องรับภาระเกินกว่าที่ตนเองทำได้ เช่น ดูแลทางบ้าน ดูแลครอบครัวเป็นต้น แต่กระนั้นไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ถ้าเราอยากออกจากวังวนสนทยานี้ สิ่งที่ต้องทำคือ หยุด! ก่อหนี้ ไม่ว่าทางใด แล้วเริ่มจัดการปัญหาที่ละอย่าง
คำถามต่อมาที่พบบ่อย ๆ รายรับที่มีจำกัด ควรทำอย่างไร หรือจะเลือกจ่ายอันไหนก่อน ระหว่าง บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หนี้นอกระบบ สินเชื่อเงินก้อนต่าง ๆ สิ่งที่อยากจะแนะนำก่อนเลยก็คือ หาข้อมูลอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อแต่ละชนิด ซึ่งดอกเบี้ยจะแตกต่างกัน บัตรเครดิตอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 20 – 25 % ต่อปี ส่วนบัตรกดเงินสดนั้นอยู่ที่ประมาณ 24-28 % ต่อปี และคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน และสินเชื่อเงินก้อนนั้น อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 10 – 20 % ต่อปี ตรงนี้แหละที่เราต้องศึกษา ซึ่งหากไม่รู้เราก็จะเลือกชำระหนี้ได้ไม่ตรงจุด และเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คงจะพอเห็นว่าได้ว่า บัตรกดเงินสดเป็นบัตรแรก ๆ ที่ควรจัดการนั่นเอง
ทีนี้เรามาดูเทคนิคการจัดการหนี้กัน สิ่งแรกที่ต้องทำคือกำหนดเป้าหมายครับ เลือกจ่ายบัตรหนี้บัตรกดเงินสดก่อน โดยให้ชำระมากกว่าขั้นต่ำเพื่อไปลดต้นให้มากที่สุด ส่วนหนี้บัตรเครดิตและอื่น ๆ ก็ชำระขั้นต่ำไป และหากมีรายได้เงินก้อนมา เช่น โบนัส ก็ควรเอาไปจัดการปิดบัญชีไปทีละบัตร หากรายรับไม่พอจ่ายจริง ๆ แนะนำให้เข้าไปคุยกับสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อขอคำแนะนำ โดยอาจจะขอผ่อนระยะยาว หรือรวมหนี้มาไว้ที่เดียวถ้าทำได้ เป็นต้น จากนั้นก็เริ่มหารายได้ช่องทางที่ 2 โดยเลือกการหารายได้จากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วหรือรายได้ที่ใช้ต้นทุนต่ำ เป็นต้น
สิ่งสำคัญที่สุดในการปราบหนี้คือ หยุดนิสัยการใช้เงินอย่างไม่ระวัง ทำบัญชีและงบดุลต่าง ๆ วางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบ ฟังดูอาจเหมือนง่ายนะครับ แต่การจะแก้หนี้นั้นต้องใช้พลังใจอย่างสูง ซึ่งหากเราผ่านไปได้จะพบว่าชีวิตไร้หนี้นั้นมีความสุขมากแค่ไหน แต่การใช้บัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียนะครับ หากเราศึกษาเงื่อนไขกันเป็นอย่างดีแล้ว สินเชื่อเหล่านี้ ก็สร้างความมั่งคั่งให้แก่เราได้เช่นกัน
