Credit Scoring คือ เครื่องมือของทางธนาคารที่ถูกพัฒนามาเพื่อใช้สำหรับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่มีจำนวนการขอสินเชื่อในวงเงินไม่สูง เช่น บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต แต่ถ้าหากเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินสูง เช่น สินเชื่อบ้านเคหะ หรือสินเชื่อเพื่อธุรกิจ เหล่านี้ทางสถาบันจะใช้พนักงาน และข้อมูลที่เยอะกว่ารวมถึง Behavior Scoring ในการพิจารณาอนุมัติด้วย
ซึ่งความเข้มข้นของการวัดระดับ Credit Scoring หรือการประเมินเพื่อให้อนุมัติบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต ฯลฯ ของแต่ละสถาบันการเงินนั้นก็แตกต่างกันตามข้อมูลหรือลักษณะนิสัยของลูกค้าแต่ละสถาบันด้วย โดยสังเกตได้ว่าเมื่อเรายื่นเอกสารและกรอกใบสมัครนั้น จะมีข้อมูลต่าง ๆ ที่เราต้องกรอกมากมาย เช่น ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ ลักษณะงาน สภาวะสังคม ภาระหนี้สินที่คงค้าง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในแต่ละเดือน เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ถูกนำไปประมวลผลตามตัวชี้วัดของสถาบันนั้น ๆ เพื่อจัดอันดับ ประเมินวงเงินและทำการอนุมัติต่อไป
ถึงแม้ว่าการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบัตรกดเงินสดของแต่ละสถาบันนั้นจะแตกต่างกันแต่ก็มีบางหัวข้อที่คล้าย ๆ กัน ซึ่งเราสามารถพิจารณาตนเองก่อนที่จะยื่นเรื่องขอสินเชื่อบัตรกดเงินสดและสามารถเตรียมความพร้อมให้ Credit Scoring ของเรามีโอกาสผ่านมากขึ้น ได้ดังนี้
- รายได้ 8,000 – 15,000 ตามข้อกำหนดแต่ละสถาบัน แต่ตามหลักการควรมีมากกว่าฐาน เช่น กำหนดว่า 15,000 เราก็ควรมีมากกว่าเล็กน้อย ประมาณ 17,000 บาท เป็นต้น
- สภาวะหนี้สินหรือภาระค่าใช้จ่ายแบบคงที่ไม่เกิน 50 % ของรายได้ ก็มีโอกาสในการพิจารณาอนุมัติได้มากขึ้น
- อายุที่มากขึ้น การพิจารณาวงเงินก็น้อยลง เช่น หากอายุ 20 ต้น ๆ ก็มีโอกาสและอาจได้วงเงินที่มากกว่าคนอายุ 35 ขึ้นไป เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายได้ด้วย
- การไม่เคยมีบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดเลย อาจเป็นผลร้ายก็ได้ เพราะทางธนาคารอาจพิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้นถึงไม่มีบัตร เพราะไม่อยากสมัครเอง หรือไม่มีสถาบันไหนอนุมัติ แบบนี้ตอนเริ่มทำงานให้มีรายได้ใหม่ ๆ เมื่อมีโอกาสก็สมัครไว้เผื่อเป็นฐานข้อมูลเครดิตตัวเอง
- อาชีพที่มีคุณค่า หรือรายได้มากกว่าก็มีโอกาสได้รับวงเงินมากกว่า เป็นต้น
เหล่านี้เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ที่สถาบันการเงินใช้พิจารณา ซึ่งก็มีข้อมูลอื่นในการพิจารณาด้วย อย่าลืมการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพราะเป็นสิ่งสำคัญในการยื่นขอสินเชื่อที่ทางสถาบันใช้พิจารณา
แต่สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่สุดก่อนทำการยื่นพิจารณาขอสินเชื่อต่าง ๆ นั้น คือการมีรากฐานและวินัยทางการเงินที่ดีและพิจารณาว่าการใช้เงินแต่ละครั้งนั้น มีความจำเป็นจริง ๆ หรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อมาเพื่อทำอะไรก็ตาม สินเชื่อนั้นจะเป็นภาระที่ผูกพันเราและหากไร้การวางแผนที่ดี ก็อาจเกิดปัญหาใหญ่ตามมาที่หลังก็ได้