เชื่อว่าทุก ๆ คนนั้นมีภาวะฉุกเฉินหรือเรื่องที่ไม่คาดฝัน แล้วต้องมีการใช้เงินเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นให้ได้กันทุกคน ยิ่งในปัจจุบันด้วยแล้ว เงินแทบจะแทรกเข้าไปเกี่ยวข้องกับทุกปัญหาของชีวิตเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ อุบัติเหตุ หรือต้องซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินด้วยกันทั้งสิ้น วันนี้เราเลยจะมาคุยกันถึงวิธีการใช้บัตรกดเงินสดให้ตรงกับสถานะการณ์ของชีวิต เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกัน
ก่อนอื่นที่เราต้องทำเป็นอันดับแรกเกี่ยวกับการใช้บัตรกดเงินสดคือ ศึกษาอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดที่เรามีอยู่ เพราะบัตรกดเงินสดนั้นแต่ละสถาบันก็มีข้อกำหนดแตกต่างกัน แม้จะไม่มากมายก็ตามแต่สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยในการประหยัดค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยต่าง ๆ ได้ เช่น บางบัตรต้องกดเฉพาะตู้ของสถาบันการเงินนั้น ๆ เท่านั้น บางบัตรอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้บัตรรวมกัน 28 % แต่กับอีกบัตรอาจแค่ 25% อันนี้เราต้องรู้รายละเอียด เมื่อศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เป็นอย่างดีแล้ว ก็มาดูกันว่าควรใช้สินเชื่อแบบไหนในแต่ละสถานะการณ์
- ซื้อสินค้า การซื้อสินค้าต่าง ๆ นั้นไม่ว่าจะต้องการผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว ๆ สิ่งแรกที่ควรทำคือหาโปรโมชั่นจากบัตรผ่อนสินค้าก่อน เพราะปัจจุบันมีมากมายเหลือเกินสำหรับโปรโมชั่นผ่อน 0 % ของแต่ละสถาบัน หรือหากไม่มีโปรโมชั่นของบัตรผ่อนสินค้าก็เลือกใช้บัตรเครดิตดีกว่าการใช้บัตรกดเงินสด เพราะบัตรเครดิตปลอดภาระดอกเบี้ย 45 วัน หากต้องการผ่อนยาวกว่านี้ ก็ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่น้อยกว่าบัตรกดเงินสดอยู่ดี
- ใช้เงินสด เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินสดเท่านั้น เช่น จ่ายหมุนเวียนในธุรกิจ หรือใช้ซื้อสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่สามารถใช้บัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรเครดิตได้นั้น ควรใช้บัตรกดเงินสด มากกว่าจะไปกดเงินสดจากบัตรเครดิตหรือบัตรผ่อนสินค้า เพราะบัตรเหล่านั้นมีการคิดทั้งดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการใช้เงินสด ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับบัตรกดเงินสดที่ไร้ค่าธรรมเนียม
จะเห็นได้ว่าหากเราใช้เงินสดในการทำธุรกรรม ควรใช้สินเชื่อจากบัตรกดเงินสดที่ไร้ค่าธรรมเนียมในการกดออกมาใช้ แต่การใช้สินเชื่อประเภทนี้มีข้อควรระวังอย่างมากคือดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัตรประเภทอื่น ๆ หากจำเป็นต้องนำมาใช้แล้ว ควรชำระให้เสร็จโดยเร็วไม่ควรชำระขั้นต่ำเป็นระยะเวลานาน ๆ ซึ่งจะทำให้มีภาระดอกเบี้ยสูงตามมา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากจะแนะนำอีกอย่างคือ การรู้จักออมเงินเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉินต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อที่ว่าเมื่อต้องเจอกับเหตการณ์ที่ไม่คาดฝัน ยังพอมีเงินสำรองเพื่อที่จะช่วยให้เรานำมาทำธุรกรรมตามความจำเป็นได้ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยจะเป็นแนวทางการป้องกันที่ดีที่สุด